เปิดแล้ว! “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 ขยายพื้นที่สู่ฝั่งอันดามัน ปลุกพลังเยาวชนชายแดนใต้ สานต่อปณิธาน "ป๋าเปรม"


 

เปิดแล้ว! “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 ขยายพื้นที่สู่ฝั่งอันดามัน ปลุกพลังเยาวชนชายแดนใต้ สานต่อปณิธาน "ป๋าเปรม"

พังงา - เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. โครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 45 พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน ได้ฤกษ์เปิดอย่างเป็นทางการ ณ ห้องประชุมจำปูน ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ "สานใจไทย สู่ใจใต้" เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่, ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสทัต เลขาธิการมูลนิธิฯ, คณะกรรมการดำเนินงาน, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด, หัวหน้าส่วนราชการ, ครอบครัวอุปถัมภ์ และเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" ริเริ่มจากดำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 20 โดยมีเป้าหมายหลักในการเปิดโอกาสให้เยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอในสงขลา) ได้รับความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพในการพัฒนาประเทศชาติ

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ กล่าวชื่นชมความสำเร็จของโครงการที่สามารถขยายการดำเนินงานมาสู่พื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันเป็นปีแรก ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดพังงา กระบี่ และภูเก็ต โดยจะดำเนินการคู่ขนานกับโครงการในพื้นที่ภาคกลาง สามารถรองรับเยาวชนได้ 120 คน และครอบครัวอุปถัมภ์ 60 ครอบครัว ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 28 ตุลาคม 2568

"เป้าหมายที่สำคัญยิ่งของโครงการ คือการให้โอกาสเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม" พลเอกสุรยุทธ์ฯ กล่าวย้ำ พร้อมชื่นชมการพัฒนาปรับปรุงกิจกรรมโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุ้มค่ากับความมุ่งมั่นในการสร้างความสงบสุขสมานฉันท์ และปลูกฝังความสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน ตามคำกล่าวของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่ว่า "เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน" ซึ่งหมายถึงการสำนึกในความเป็นไทย ความรักและความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

พลเอกสุรยุทธ์ฯ ยังได้ฝากให้เยาวชนทุกคนตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และประสบการณ์จากครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อนำกลับไปพัฒนาตนเองให้เป็นกำลังสำคัญของครอบครัว ชุมชน และประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ทั้งนี้ ได้กล่าวขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครอบครัวอุปถัมภ์ทั้ง 60 ครอบครัว ที่เสียสละ ทุ่มเท และปรารถนาดีต่อเยาวชน


โครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 45 ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันนี้ นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสะพานเชื่อมโยงและสร้างความเข้าใจระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อความสงบสุขและสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น