กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนภัยประชาชนให้ระมัดระวังการใช้สายไฟและปลั๊กไฟที่อาจก่อให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรและเพลิงไหม้
จากข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าสาเหตุหนึ่งของการเกิดเพลิงไหม้ในบ้านเรือนมาจากการใช้สายไฟและปลั๊กไฟไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามเป็นเพลิงไหม้ได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว กรมฯ จึงขอแนะนำประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟอยู่เสมอ: ตรวจสอบว่าสายไฟและปลั๊กไฟอยู่ในสภาพดี ไม่ชำรุดเสียหาย หรือมีรอยแตกหัก
- อย่าใช้สายไฟที่ชำรุด: หากพบว่าสายไฟมีรอยขาด หรือปลั๊กไฟหลวม ให้หยุดใช้งานทันที และเปลี่ยนใหม่
- อย่าใช้สายไฟเกินขนาด: การใช้สายไฟที่มีขนาดเล็กเกินไปในการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูง อาจทำให้สายไฟร้อนจนเกิดไฟไหม้ได้
- อย่าต่อสายไฟหลายชั้น: การต่อสายไฟหลายชั้นจะทำให้เกิดความร้อนสะสม และอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
- อย่าใช้ปลั๊กไฟหลายอันในเต้ารับเดียว: การใช้ปลั๊กไฟหลายอันในเต้ารับเดียวจะทำให้เกิดการโอเวอร์โหลด และอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
- อย่าใช้ปลั๊กไฟในที่ชื้น: การใช้ปลั๊กไฟในที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือบริเวณที่เปียกน้ำ อาจทำให้เกิดไฟดูดได้
- อย่าดึงสายไฟออกจากปลั๊กโดยการดึงสาย: ควรจับที่ตัวปลั๊กแล้วดึงออก
- อย่าพันสายไฟรอบ ๆ วัตถุ: การพันสายไฟรอบ ๆ วัตถุจะทำให้สายไฟขาดได้ง่าย
หากพบเห็นเหตุการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไฟไหม้ โปรดรีบแจ้งหน่วยงานดับเพลิงโดยทันที ที่หมายเลข 199
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนนิรภัย 1784 หรือเว็บไซต์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
หมายเหตุ: ข่าวนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักในการป้องกันอัคคีภัย ไม่ได้มีเจตนาเพื่อการค้า
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ติดตั้งเครื่องตรวจจับควัน: เพื่อให้สามารถตรวจจับควันได้อย่างรวดเร็ว และแจ้งเตือนให้คุณทราบเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้
- วางแผนหนีไฟ: หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ คุณควรมีแผนหนีไฟที่ชัดเจน และฝึกซ้อมแผนหนีไฟเป็นประจำ
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านเป็นประจำ: เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยจากการใช้สายไฟและปลั๊กไฟได้อย่างมาก
#ป้องกันอัคคีภัย #สายไฟ #ปลั๊กไฟ #ความปลอดภัย #กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย