รมช.มหาดไทย "ศศิธร" ชูเป็นจุดประวัติศาสตร์สำคัญ เชื่อมโยงมารีน่าฮับ รับนโยบาย "คนละครึ่ง พลัส"
กระบี่ - เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และคณะ ได้ร่วมต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ (Creativity Tourrism) เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดกระบี่ พร้อมเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แห่งใหม่ "บ้านเลขที่ 1 จังหวัดกระบี่" มั่นใจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของจังหวัด
การต้อนรับคณะสื่อมวลชนดังกล่าว จัดขึ้น ณ ท่าเรือพอร์ตตะโกลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางมารีน่าฮับของเมืองกระบี่ และเป็นสัญลักษณ์ของแลนด์มาร์กสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบน (ไฮเอนด์) ที่นิยมการท่องเที่ยวทางเรือ ก่อนจะนำคณะเยี่ยมชม "บ้านเลขที่ 1" หมู่ที่ 6 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นบ้านโบราณในสวนมะพร้าวของพระยาคงคาธราธิบดี อดีตผู้ว่าราชการเมืองกระบี่ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP Krabi ดี เด่น ดัง กว่า 20 กลุ่ม และร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้นำชุมชน
นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การดำเนินงานนี้เป็นการขานรับต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีระกูล) ผ่านโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" และ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" เนื่องจากจังหวัดกระบี่มีศักยภาพและความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวที่งดงามตามธรรมชาติเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล
เพื่อเป็นการขานรับและส่งเสริมต่อนโยบายดังกล่าว จังหวัดกระบี่จึงได้เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์แห่งใหม่ ที่อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติสุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี บ้านแหลมโพธิ์ โดยมีชื่อเรียกว่า “บ้านเลขที่ 1 จังหวัดกระบี่” ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยเก่าแก่กว่าร้อยปีของพระยาคงคาธราธิบดี (พลอย ณ นคร) อดีตผู้ว่าราชการเมืองกระบี่ คนที่ 6 ถือเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้ชีวิตและความเป็นอยู่ในยุค "เปิดป่าเป็นเมืองของกระบี่"
"บ้านเลขที่ 1 เมืองกระบี่" ตั้งอยู่ในสวนมะพร้าว "สวนอิศระ" บ้านแหลมโพธิ์ อ.ปากน้ำ ซึ่งเคยเป็นเกษตรแปลงใหญ่แห่งแรกของจังหวัดกระบี่ที่ปลูกมะพร้าวเพื่อส่งออก โดยปัจจุบันยังคงมีต้นมะพร้าว เตาอบและเตาเผามะพร้าวที่เคยใช้สกัดเป็นน้ำมันมะพร้าวส่งไปขายยังเมืองปีนัง เรือนหลังนี้ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2567 โดยยังคงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุดและตั้งชื่อเรือนใหม่ว่า "คงคาธรรมศาลา" ซึ่งปรับพื้นที่ด้านบนเป็นโถงโล่งสำหรับประกอบพิธีมงคล พร้อมจัดแสดงโบราณวัตถุ อาทิ กูบช้างที่ใช้ในการออกตรวจราชการ
นอกจากคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว บริเวณสวนอิศระยังถือเป็นพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ (Ramsar Site) ติดกับป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติทางทะเลและสุสานหอย 75 ล้านปี ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศแบบชะวากทะเล (Estuary)
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนงานกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง ชุมชนเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งรวมถึงการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน การส่งเสริมอาชีพและรายได้ การเพิ่มมูลค่าสินค้า การขยายตลาด และการยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP สู่สากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม.


0 ความคิดเห็น